สติซ
ประวัติของสติช
เรื่องราวของสติชมาจากภาพยนตร์เรื่อง Lilo & Stitch จิงๆแล้วสติชไม่ได้มี แขนและขา แค่ 4 แต่มันมีถึง 6 สติชนั้นเป็น สัตว์ทดลอง 626 เป็นสิ่งมีชีวิตประหลาด ตัวมันสามารถกันกระสุน กันไฟ และคิดได้ไวยิ่งกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ มันมีตาที่สามารถมองเห็นได้ในความมืดมิด และมีแรงอันมาก สามารถยกสิ่งของที่หนักได้อย่างสบายๆ แต่สัญชาตญาณมันไม่ได้น่าเอ็นดูเหมือนตุ๊กตาที่เราเห็นๆกันนะในเรื่อง ขอย้ำนะ ณ ตอนแรก มันกราดเกรี้ยวมาก มันทำร้ายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเห็น หรือมันจับต้อง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ใครคงไม่ชอบแน่ๆ ท้ายที่สุดมันโดนสมาชิกสภาลงโทษให้จับขังคุก แต่อย่างที่บอกไปตอนต้นละนะมันชาญฉลาดมาก มันจึงได้ขโมยและขับยานอวกาศหนีมาที่ดาวโลกซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกัน นะนี่ ว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องทำไมต้องมาดาวโลก แปลกไหม แต่ก็อย่างว่าละนะ ไม่มาเนื้อเรื่องจะไปต่อได้อย่างไร มาว่ากันต่อ สุดท้ายสติชก็ได้มาเจอลีโล่ อยากรู้ต่อทดลองหาภาพยนตร์การตูนเรื่องนี้มาดูได้นะจ้ะ เอาแล้วๆ ร้านเราขายตุ๊กตานี่น่าแนะแนวซื้อหนังซะงั้น อยากลืมซื้อตุ๊กตาด้วย
หนัง เล่าเรื่องราวของหนูน้อยลีโล่ ที่ได้เผชิญหน้าระยะกระชั้น กับเอเลี่ยนทดลองสุดซ่าชื่อ "สติทช์" ซึ่งหนีมาจากดาวแห่งเอเลี่ยน แล้วหล่นลงบนพื้นโลก รูปร่างเล็กจ้อยหน้าตาละม้าย "หมา" ของสติทช์ ทำให้ลีโล่เก็บมันไปเลี้ยงด้วยความรัก ความจริงใจ และความเชื่ออันมั่นคงต่อเรื่อง "โอฮาน่า" ('ohana - ศัพท์ฮาวายหมายถึงครอบครัว) จนสามารถเปิดหัวใจของสติทช์ได้สำเร็จ และมอบสิ่งหนึ่ง ที่มันไม่เคยคาดฝันว่าจะมี นั่นคือ ครอบครัว
ด้วย ภาพบ้านเมืองเขตร้อนเขียวชุ่มฉ่ำ, อารมณ์ขันไม่ธรรมดา และเพลงคลาสสิคของ เอลวิส เพรสลี่ย์ ทำให้ Lilo & Stitch เป็นหนังที่จะพาคนดูเข้าสู่การเดินทางอันแสนรื่นรมย์ผ่านห้วงจักรวาลแอนิเม ชั่น โดยงานชิ้นนี้นับเป็นหนังเรื่องที่ 2 ที่สร้างกันที่แผนกภาพยนตร์แอนิเมชั่นในฟลอริด้า (Florida Feature Animation) ของดิสนีย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นสถานที่สร้างผลงานเรื่องดังปี 1998 อย่าง Mulan มาแล้ว
องค์ ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมความโดดเด่นและความสนุกสนานให้แก่ Lilo & Stitch ก็คือซาวด์แทร็คสุดโจ๋ของ "ราชา" เอลวิส เพรสลี่ย์ ซึ่งเป็นผู้ขับร้องเพลงยอดฮิตทั้ง 6 เพลงที่ปรากฏในหนังเรื่องนี้ รวมถึงเวอร์ชั่นใหม่สุดเร้าใจของอีก 2 เพลงดังของเอลวิสคือ Burning Love ซึ่งขับขานโดยนักร้องคันทรี่ ระดับชิงรางวัลแกรมมี่อย่าง วินอนน่า (Wynonna) และ Can't Help Falling in Love ในช่วงเครดิตท้ายเรื่อง ขับร้องโดย A*Teens วงดนตรีพ็อพสุดดังของสวีเดน กับยังได้คอมโพสเซอร์ชื่อก้องอย่าง อลัน ซิลเวสทรี (เข้าชิงออสการ์จาก Forrest Gump) มาเพิ่มสีสันและความแฟนตาซี ให้แก่เรื่องราวเมามันยากจะคาดเดาของหนังเรื่องนี้ ด้วยดนตรีประกอบของเขา ร่วมกับนักดนตรีฮาวายมือฉมัง มาร์ค คีลี โฮโอมาลู (Mark Keali'i Ho'omalu) ในเพลงฮาวายเอี้ยนอีก 2 เพลง ซึ่งแสดงโดยสมาชิกวงคอรัสจาก Kamehameha School Children's Chorus
Lilo & Stitch เป็นหนังเรื่องที่สอง ที่สร้างกันในแผนกแอนิเมชั่นที่ฟลอริด้าของดิสนีย์ โดยทุกส่วนของงานสร้าง (ยกเว้นการวาดดิจิตอลที่ใช้ระบบ CAPS ซึ่งเคยคว้ารางวัลออสการ์มาแล้ว) เป็นหน้าที่รับผิดชอบของศิลปิน, แอนิเมเตอร์ และช่างเทคนิค 300 ชีวิตที่แผนกภาพยนตร์แอนิเมชั่นในฟลอริด้านี้
ผู้ รับหน้าที่ดูแล Lilo & Stitch ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงงานสร้างก็คือ ทีมผู้กำกับ/เขียนบท คริส แซนเดอร์ส กับ ดีน เดบลัวส์ โดยแซนเดอร์สเป็นมือเก๋าผู้เก่งกาจ ที่ทำงานกับแผนกภาพยนตร์แอนิเมชั่น ของดิสนีย์มาตั้งแต่ปี 1987 และเคยทำสตอรี่บอร์ดฉากสำคัญๆ ใน Beauty and the Beast, เป็นโปรดัคชั่นดีไซเนอร์ให้ The Lion King และเป็นหัวหน้าทีมคิดเรื่องของ Mulan มาแล้ว ก่อนจะรับหน้าที่สร้างไอเดียของหนังเรื่องนี้ ส่วนเดอบลัวส์ ซึ่งเคยร่วมงานกับแซนเดอร์ส ในตำแหน่งหัวหน้าร่วมของฝ่ายเรื่องราวใน Mulan ก็สานต่อไอเดีย และนำความสามารถด้านการวางโครงร่างภาพ มาใช้กับโปรเจ็คต์นี้ ทั้งคู่เลือกทำบทให้เป็นสตอรี่บอร์ดด้วยตนเอง แทนที่จะใช้วิธีส่งต่อ ให้เป็นหน้าที่ของแผนกเรื่องราวเหมือนปกติ นั่นทำให้พวกเขาสามารถถ่ายทอดมุมมองของตน ต่อทีมงาน และกำหนดทิศทาง แก่ทีมแอนิเมเตอร์กับทีมสร้างสรรค์ ได้อย่างชัดเจนเป็นขั้นเป็นตอน
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสร้างตกเป็นของ คลาร์ค สเปนเซอร์ ซึ่งทำงานกับดิสนีย์มานาน 12 ปีโดยเริ่มจากงานด้านวางแผนและการเงิน ล่าสุดเป็นรองประธานอาวุโส กับผู้จัดการทั่วไปของวอลท์ ดิสนีย์ฟีเชอร์แอนิเมชั่นฟลอริด้า ลิซ่า พูล รับหน้าที่ผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้าง และ เจฟฟ์ ดัตตัน ผู้ประสานงานฝ่ายศิลปะ มาใช้ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ และการจัดการของเขา ในหน้าที่ดูแลงานสร้าง ให้ได้ผลดีเลิศที่สุดเมื่อปรากฏบนจอ
ผู้รับหน้าที่ถ่ายทอดมุมมองของผู้กำกับ ให้กลายเป็นภาพบนจอก็คือ พอล เฟลิกซ์ โปรดัคชั่นดีไซเนอร์, ริค สลูเตอร์ ผู้กำกับศิลป์ และ บ็อบ สแตนตัน แบ็คกราวด์ซูเปอร์ไวเซอร์ โดยภาพวาดแรกเริ่มของแซนเดอร์ส ให้ไอเดียเกี่ยวกับการใช้สีน้ำ และสลูเตอร์ก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่า สไตล์ของสื่อชนิดนี้ เหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับการใช้จับอารมณ์ชุ่มฉ่ำ ตามธรรมชาติของเกาะฮาวาย พวกเขาร่วมกันทดลองสีน้ำ และค้นพบแนวทางใหม่ๆ ในการทำให้วิธีนี้เหมาะกับตัวหนัง สีน้ำเป็นสื่อที่เคยใช้กันเป็นปกติ ในหนังดิสนีย์ยุคแรกๆ อย่าง Snow White and the Seven Dwarfs, Pinocchio, Dumbo และ Bambi แต่ต่อมานักวาดได้เปลี่ยนมาใช้สีผสมน้ำมัน "gouache" (เป็นวิธีวาดสีทึบ) มากกว่า จนกระทั่งทีมแบ็คกราวด์ของ Lilo & Stitch กลับมารื้อฟื้นศิลปะที่ห่างหายไปแล้วนี้อีกครั้ง และนำมาใช้ในวิธีใหม่ที่น่าตื่นเต้น
นอก เหนือจากทีมที่กล่าวมาแล้ว ซูเปอร์ไวเซอร์คนหลักๆ ของหนังยังได้แก่ อาร์เดน ชาน (เลย์เอาต์), โจ กิลแลนด์ (วิชวลเอฟเฟ็คต์ส), เอริค กวากลิโอน (คอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น) และ ฟิลลิป บอยด์ กับ คริสทีน ลอว์เรนซ์-ฟินนีย์ ดูแลด้านคลีน-อัพ (Clean-Up) กิลแลนด์กับกวากลิโอน พบวิธีผสมผสานภาพจากเทคโนโลยี CG (computer generated) และเอฟเฟ็คต์เข้ากับภาพวาดสีน้ำ ส่วนทีมดิจิตอลโปรดัคชั่นและเอฟเฟ็คต์ ทำโมเดลและวาดภาพวัตถุต่างๆ เช่น ยานอวกาศ, ปืนรังสี, กระดานโต้คลื่น, ยานแม่ที่จะปรากฏให้เห็นในฉากเปิดเรื่อง นอกจากนั้น ทีมเอฟเฟ็คต์ยังสร้างภาพใต้น้ำที่น่าทึ่ง และพาคนดูไปพบกับภาพ ที่แม้แต่หนังคนแสดงก็ยังทำไม่ได้นั่นคือ ภาพด้านในของคลื่นยักษ์ กับยังมีเอฟเฟ็คต์น่าตื่นตาอีกมากมายในหนัง ไม่ว่าจะเป็นภาพลาวาไหลทะลัก, ระเบิด และภาพยานอวกาศของสติทช์ที่ถูกขโมยไป แล้วพุ่งด้วยความเร็วสูง เข้าสู่อุโมงค์กาลเวลาอย่างรุนแรง
เนื่อง จากเรื่องราวเกิดขึ้นที่ฮาวาย ทีมงานจึงใช้เวลาไปศึกษาความงามตามธรรมชาติอันน่าทึ่ง ของเกาะสวรรค์แห่งนี้ แซนเดอร์ส, เดอบลัวส์, สลูเตอร์ ผู้กำกับศิลป์, สแตนตัน แบ็คกราวด์ซูเปอร์ไวเซอร์, แอนเดรียส เดจา แอนิเมเตอร์ และทีมงานอีกหลายคนหอบหิ้วกล้อง, พู่กัน และสมุดสเก็ตช์ แล้วมุ่งหน้าสู่ฮาวายเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อศึกษาทิวทัศน์ที่นั่น โดยใช้เวลาส่วนใหญ่บนเกาะคาวี (Kauai) ซึ่งทีมงานทั้งดำน้ำสน็อกเกิล, สกูบ้า, เล่นเซิร์ฟ และเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ อย่าง Hanalei, Hanapepe, หาดนาปาลี, พรินซ์วิลล์ และหาด Ke'e Beach รวมถึงอุทยานแห่งชาติอีกหลายแห่ง เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับใบไม้, พันธุ์พืช, หินลาวา, ทรายสีส้ม, ท้องทะเลสีเทอร์คอยซ์, ภูเขาสีแดงสด และภาพดวงอาทิตย์ตกอันสวยงาม นอกจากนั้น เดจายังไปดูโรงเรียนชนพื้นเมืองฮาวาย ซึ่งเน้นการศึกษาภาษา และวัฒนธรรมประจำเกาะด้วย
ลีโล่
เป็นเพื่อน ของสติซ
นี่เป็นตัวละครในโลกของสติซ <3
รหัส 007
ชื่อ จีจี้ (ตั้งโดยเพื่อนของลิโล)
ออกแบบมาให้กวนคนโดยการเห่าหอนทั้งวันซึ่งก็เอาแต่เห่าอย่างเดียวจริง ๆ เลยล่ะ
เพราะลักษณะเหมือนหมาชิสุ เลยไม่มีใครรู้ว่าเป็นชีวิตทดลอง และเพื่อนของลิโล (จำชื่อไม่ได้ ที่ชอบแกล้งลิโลบ่อย ๆ น่ะ) ก็เอามาเลี้ยงไว้ก็มีความสุขและเข้ากันดีทั้งคู่อยู่แล้ว ลิโลก็เลยให้เพื่อนคนนั้นเลี้ยงเอาไว้เลย
ชื่อ จีจี้ (ตั้งโดยเพื่อนของลิโล)
ออกแบบมาให้กวนคนโดยการเห่าหอนทั้งวันซึ่งก็เอาแต่เห่าอย่างเดียวจริง ๆ เลยล่ะ
เพราะลักษณะเหมือนหมาชิสุ เลยไม่มีใครรู้ว่าเป็นชีวิตทดลอง และเพื่อนของลิโล (จำชื่อไม่ได้ ที่ชอบแกล้งลิโลบ่อย ๆ น่ะ) ก็เอามาเลี้ยงไว้ก็มีความสุขและเข้ากันดีทั้งคู่อยู่แล้ว ลิโลก็เลยให้เพื่อนคนนั้นเลี้ยงเอาไว้เลย
รหัส 010
ชื่อ เฟลิกซ์
ถูกออกแบบมาให้ดูดทุกอย่างที่เห็นเป็นขยะและทำความสะอาดทุกอย่างที่เห็นว่าสกปรก
จัมบ้าสร้างขึ้นมาให้ทำความสะอาดบ้านตัวเองนั่นแล่ะ แต่เพราะมาตรฐานความสะอาดเกินพอดีของมัน เลยดูเหมือนจะผิดพลาดไปหน่อยพอลิโลสอนเรื่องความพอดีให้แล้ว มันก็ได้เป็นคนทำความสะอาดโรงเรียนสอนเต้นฮูล่าที่ลิโลเรียนอยู่
ชื่อ เฟลิกซ์
ถูกออกแบบมาให้ดูดทุกอย่างที่เห็นเป็นขยะและทำความสะอาดทุกอย่างที่เห็นว่าสกปรก
จัมบ้าสร้างขึ้นมาให้ทำความสะอาดบ้านตัวเองนั่นแล่ะ แต่เพราะมาตรฐานความสะอาดเกินพอดีของมัน เลยดูเหมือนจะผิดพลาดไปหน่อยพอลิโลสอนเรื่องความพอดีให้แล้ว มันก็ได้เป็นคนทำความสะอาดโรงเรียนสอนเต้นฮูล่าที่ลิโลเรียนอยู่
รหัส 151
ชื่อ เบบี้เฟียร์
น่ากลัวมาก
มันสามารถทำให้คนทั้งดวงดาวกลายเป็นเด็ก ทำให้ดาวดวงนั้นล่มสลายไปเลย
จำไม่ได้เหมือนกันแฮะ ว่าตอนหลังมันได้ไปอยู่บ้านไหน
แต่ตอนที่สติชกลายเป็นเด็กนี่ น่ารักมาก >_<
ชื่อ เบบี้เฟียร์
น่ากลัวมาก
มันสามารถทำให้คนทั้งดวงดาวกลายเป็นเด็ก ทำให้ดาวดวงนั้นล่มสลายไปเลย
จำไม่ได้เหมือนกันแฮะ ว่าตอนหลังมันได้ไปอยู่บ้านไหน
แต่ตอนที่สติชกลายเป็นเด็กนี่ น่ารักมาก >_<
รหัส 221
ชื่อ สปาร์กี้
สามารถปั่นกระแสไฟฟ้าได้ในตัวเอง และสามารถกลายเป็นไฟฟ้าเดินทางไปในวัตถุตัวนำได้
และลิโลก็ให้มันเป็นผู้ดูแลประภาคารร้างที่ไม่มีการใช้งานเพราะเปลืองค่าน้ำมัน
นี่เองที่ทำให้ลิโลได้ความคิดที่ว่า ทุกคนจะต้องมีบ้านหรือครอบคัรวที่เหมาะสม
ชื่อ สปาร์กี้
สามารถปั่นกระแสไฟฟ้าได้ในตัวเอง และสามารถกลายเป็นไฟฟ้าเดินทางไปในวัตถุตัวนำได้
และลิโลก็ให้มันเป็นผู้ดูแลประภาคารร้างที่ไม่มีการใช้งานเพราะเปลืองค่าน้ำมัน
นี่เองที่ทำให้ลิโลได้ความคิดที่ว่า ทุกคนจะต้องมีบ้านหรือครอบคัรวที่เหมาะสม
รหัส 258
ชื่อ แซมเปิ้ล
มันสามารถเลียนแบบเสียงได้ทุกชนิดที่มันได้ยิน และจะจดจำเสียงนั้นไว้ แล้วเอามาเล่นซ้ำไปเรื่อยๆ
จัมบ้าอ้างว่า มันทำให้ศัตรูรู้สึกหงุดหงิดได้ แต่ลิโลเห็นว่าเสียงที่แซมเปิ้ลเล่นนี่ เหมือนจังหวะดนตรีเลย
แล้วมันก็ได้ไปอยู่ในวงดนตรีแห่งหนึ่ง
ชื่อ แซมเปิ้ล
มันสามารถเลียนแบบเสียงได้ทุกชนิดที่มันได้ยิน และจะจดจำเสียงนั้นไว้ แล้วเอามาเล่นซ้ำไปเรื่อยๆ
จัมบ้าอ้างว่า มันทำให้ศัตรูรู้สึกหงุดหงิดได้ แต่ลิโลเห็นว่าเสียงที่แซมเปิ้ลเล่นนี่ เหมือนจังหวะดนตรีเลย
แล้วมันก็ได้ไปอยู่ในวงดนตรีแห่งหนึ่ง
รหัส 300
ชื่อ สปูกี้
อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งที่ศัตรูกลัวที่สุด มันสามารถเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งนั้นได้หมด
ตอนหลังก็ได้เป็นเพื่อนลิโลเล่นในเทศกาลฮัลโลวีน
หมายเลข 345
ชื่อ อีลาสติก้า
มีความยืดหยุ่นเหลือเชื่อ ทำให้หลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้
โดนเก็บมาโดยคณะละครสัตว์เร่ร่อนที่มาเปิดการแสดงในเกาะที่ลิโลอยู่
หลังจากที่ลิโลช่วยไว้จากแกนตูแล้ว มันก็ออกเดินทางไปกับคณะละครสัตว์นั้น
ชื่อ อีลาสติก้า
มีความยืดหยุ่นเหลือเชื่อ ทำให้หลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้
โดนเก็บมาโดยคณะละครสัตว์เร่ร่อนที่มาเปิดการแสดงในเกาะที่ลิโลอยู่
หลังจากที่ลิโลช่วยไว้จากแกนตูแล้ว มันก็ออกเดินทางไปกับคณะละครสัตว์นั้น
หมายเลข 360
ชื่อ โดรวซี่
สามารถทำให้คนหลับลึกได้เลย
ตอนหลังได้ไปอยู่กับแมวมองดาราคนนึงที่มักเครียดกับงานจนนอนไม่หลับ
ชื่อ โดรวซี่
สามารถทำให้คนหลับลึกได้เลย
ตอนหลังได้ไปอยู่กับแมวมองดาราคนนึงที่มักเครียดกับงานจนนอนไม่หลับ
หมายเลข 513
ชื่อ ริคเตอร์
สามารถสร้างแผ่นดินไหวได้
ตอนหลังก็ไปอยู่ร้านขายของ ทำมิลค์เชคด้วยแรงเขย่าของมัน
ชื่อ ริคเตอร์
สามารถสร้างแผ่นดินไหวได้
ตอนหลังก็ไปอยู่ร้านขายของ ทำมิลค์เชคด้วยแรงเขย่าของมัน
รหัส 523
ชื่อ สลัชชี่
มีลมหายใจที่สามารถแช่แข็งได้ทุกสิ่ง
ตอนหลัง ก็มีร้านขายไอติมของตัวเอง
ชื่อ สลัชชี่
มีลมหายใจที่สามารถแช่แข็งได้ทุกสิ่ง
ตอนหลัง ก็มีร้านขายไอติมของตัวเอง
รหัส 601
ชื่อ คิกซ์
แรงดี และเก่งชกมวยมาก
แต่พอแพ้สติชในการท้าแข่ง ก็ยอมจำนนแต่โดยดี
และก็ได้ไปเป็นครูฝึกในฟิตเนส นำในรายการเต้นแอโรบิก ที่แม้แต่แกนตูก็ดูด้วย (แกนตูเป็นพวกเล่นกล้ามน่ะ)
ชื่อ คิกซ์
แรงดี และเก่งชกมวยมาก
แต่พอแพ้สติชในการท้าแข่ง ก็ยอมจำนนแต่โดยดี
และก็ได้ไปเป็นครูฝึกในฟิตเนส นำในรายการเต้นแอโรบิก ที่แม้แต่แกนตูก็ดูด้วย (แกนตูเป็นพวกเล่นกล้ามน่ะ)
รหัส 608
ชื่อ สลักเกอร์
ออกแบบมาให้สามารถสะท้อนอาวุธบินทุกชนิดด้วยการตีกลับไปที่หาง
ลิโลก็เลยให้มันเป็นโค้ชเบสบอลของเด็กซะ
ชื่อ สลักเกอร์
ออกแบบมาให้สามารถสะท้อนอาวุธบินทุกชนิดด้วยการตีกลับไปที่หาง
ลิโลก็เลยให้มันเป็นโค้ชเบสบอลของเด็กซะ
รหัส 624
ชื่อ แองเจิ้ล
ออกแบบมาให้เป็นผู้นำกลุ่มชีวิตทดลองอื่น ๆ โดยเธอมีความสามารถในการทำสเน่ห์ชีวิตทดลองอื่นๆให้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเธอแต่กลับไม่มีผลกับสติช เพราะถูกสร้างมาทีหลัง (แน่นอนว่า 625 ด้วย)
แต่สติชก็หลงสเน่ห์เธออยู่ดีน่ะแล่ะ
ตอนหลังแกนตูจับตัวเธอไปได้
ชื่อ แองเจิ้ล
ออกแบบมาให้เป็นผู้นำกลุ่มชีวิตทดลองอื่น ๆ โดยเธอมีความสามารถในการทำสเน่ห์ชีวิตทดลองอื่นๆให้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเธอแต่กลับไม่มีผลกับสติช เพราะถูกสร้างมาทีหลัง (แน่นอนว่า 625 ด้วย)
แต่สติชก็หลงสเน่ห์เธออยู่ดีน่ะแล่ะ
ตอนหลังแกนตูจับตัวเธอไปได้
รหัส 625
ชื่อ Reuben
ออกแบบมาให้มีความสามารถเหมือนสติชทุกอย่าง + ความสามารถทางภาษาไปด้วยอีกอีกตะหาก
แต่ตัวมันเองกลับไม่อยากใช้เอง แถมขี้เกียจอีกตะหาก
วัน ๆ จะนั่งทำแซนวิช ฮอตดอก หรือแฮมเบอร์เกอร์ อะไรก็แล้วแต่ที่จะใช้ขนมปังประกบได้ แล้วก็กินมันทั้งวัน
ปัจจุบันเป็นคู่หูไร้ประโยชน์ของแกนตู ที่ทำได้แค่ทำอาหารให้แกนตูกิน
ชื่อ Reuben
ออกแบบมาให้มีความสามารถเหมือนสติชทุกอย่าง + ความสามารถทางภาษาไปด้วยอีกอีกตะหาก
แต่ตัวมันเองกลับไม่อยากใช้เอง แถมขี้เกียจอีกตะหาก
วัน ๆ จะนั่งทำแซนวิช ฮอตดอก หรือแฮมเบอร์เกอร์ อะไรก็แล้วแต่ที่จะใช้ขนมปังประกบได้ แล้วก็กินมันทั้งวัน
ปัจจุบันเป็นคู่หูไร้ประโยชน์ของแกนตู ที่ทำได้แค่ทำอาหารให้แกนตูกิน
รหัส 626
ชื่อ สติช
ถูกสร้างมาโดยมีพลังมหาศาล สามารถใช้อาุวุธและเครื่องมือไฮเทคได้ทุกชนิด และให้มีความคิดในการทำลายล้างเมืองใหญ่เท่านั้น
แต่พอได้มาเป็นเพื่อนกับลิโลแล้ว ลิโลก็ได้พยายามสอนสติชในการอยู่ร่วมในสังคมมนุษย์
อย่างการดูแลรักษา การแบ่งปัน ความรักในพี่น้อง ผองเพื่อน และครอบครัว
ซึ่งสติชก็พยายามเรียนรู้ในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งดูน่ารักมากเลย
ชื่อ สติช
ถูกสร้างมาโดยมีพลังมหาศาล สามารถใช้อาุวุธและเครื่องมือไฮเทคได้ทุกชนิด และให้มีความคิดในการทำลายล้างเมืองใหญ่เท่านั้น
แต่พอได้มาเป็นเพื่อนกับลิโลแล้ว ลิโลก็ได้พยายามสอนสติชในการอยู่ร่วมในสังคมมนุษย์
อย่างการดูแลรักษา การแบ่งปัน ความรักในพี่น้อง ผองเพื่อน และครอบครัว
ซึ่งสติชก็พยายามเรียนรู้ในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งดูน่ารักมากเลย
นี่เป็นเพลง ของสติซ